9 เทคนิควิธีเลิกบุหรี่ให้ได้ผล
แนะนำ 9 เทคนิควิธีเลิกบุหรี่ให้ได้ผล จากประสบการณ์ของผู้ติดบุหรี่แล้วเลิกได้จริง
1. จิตใจตั้งมั่นแน่วแน่ ก่อนอื่นต้องมีใจอยากเลิกก่อน..ท่านต้องหาแรงจูงใจมาเลิกให้ได้ เช่น เลิกเพื่อสุขภาพร่างกายของตนเอง เลิกเพื่อสุขภาพเงินในกระเป๋า เลิกเพื่อลูก เลิกเพื่อพ่อแม่ เลิกเพื่อเมีย หรือบางท่านอาจจะเลิกเพื่อน้องเมีย(กลัวน้องเมียเหม็นบุหรี่ อะไรทำนองนี้^^)
2. ทิ้งอุปกรณ์สูบบุหรี่ทุกชนิด ไฟแช็ค ไม้ขีดไฟ บุหรี่ ซิการ์ ยาพัน ..ห้ามพกติดตัวเด็ขาด ส่วนอุปกรณ์จุดไฟกรณีจำเป็นต้องใช้ ห้ามเอาไว้ในตำแหน่งที่หยิบฉวยหรือเห็นได้ง่าย
3. หลีกเลี่ยงสังคมที่สูบบุหรี่ชั่วคราวก่อน เช่น เวลาทำงานช่วงพักเบรก พักเที่ยง เพื่อนร่วมงานเค้าไปสูบบุหรี่ก็ไม่ต้องไปด้วย …และช่วงที่ทำให้เลิกได้ยากที่สุดคือช่วงสังสรรค์ร่ำสุรา ถ้าหลีกเลี่ยงวงเหล้าได้ให้หลีกเลี่ยงไปก่อนครับ เพราะดื่มเหล้าแล้วจะห้ามตัวเองได้ยากยาก
4. ดมพิมเสนหรือยาดมแทนในช่วงเวลาที่อยากสูบบุหรี่ เช่นหลังทานข้าว เวลาเข้าห้องน้ำ หรือเวลาที่จำเป็นต้องสังสรรค์ดื่มสุรากับเพื่อน
5. ดื่มชาสมุนไพรช่วยให้เลิกบุหรี่ ที่มีส่วนผสมของหญ้าดอกขาว โปร่งฟ้า เพราะสมุนไพรเหล่านี้จะมีสรรพคุณช่วยลดอาการอยากบุหรี่และทำให้รสชาติบุหรี่เปลี่ยนไป สำหรับชาเลิกบุหรี่แนะนำของเป็นไทฟาร์ม เพราะราคาไม่แพง
หรือใช้ยาอมเลิกบุหรี่ ที่มีสรรพคุณช่วยลดนิโคตินในร่างกาย และช่วยลดอาการอยากบุหรี่ ตอนนี้ในท้องตลาดมียาอมยี่ห้อ Fix ที่กำลังเป็นที่นิยม สำหรับรายละเอียดและสรรพคุณแนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> ยาอม Fix
หรือใช้ยาแผนปัจจุบัน ยาที่ใช้สำหรับเลิกบุหรี่ที่ใช้กันทั่วไปก็จะมียี่ห้อ โควเมม ซื่งจะไปออกฤทธิ์กับสมอง ทำให้ลดอาการอยากสูบบุหรี่ลงได้ แต่ก็มีข้อเสียคือต้องระมัดระวังในการใช้ดังนี้
– ห้ามใช้ในคนที่มีประวัติโรคที่เกี่ยวกับการชัก
– ห้ามใช้ในคนที่ใช้ยาตัวนี้รักษาโรคอื่นอยู่ก่อนแล้ว เพราะถ้าเกินขนาดจะทำให้ชักได้ ซื่งจะเป็นอันตรายมากเวลาที่ใช้งานเครื่องจักร หรือขับรถ
– คนกลุ่มที่ใช้ยา MAOI(รักษาโรคซึมเศร้า)
– ยาแผนปัจจุบันจะจะมีผลข้างเคียงค่อนข้างเยอะ เช่น ปากแห้ง นอนไม่หลับ เป็นต้น
6. ทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง ผลไม้เช่น สับปะรด ส้ม มะนาว เป็นต้น หรือถ้าไม่สะดวกหาทานก็ให้ใช้วิตามินชี 1000 มิลลิกรัมทดแทน เพราะวิตามินซีมีสารช่วยลดความอยากนิโคตินอยู่
7. ทำสมาธิ ฝีกลมหายใจเข้า-ออก การหายใจก็เป็นสิ่งสำคัญ พยายามหายใจเข้า-ออกลึกๆ เป็นจังหวะ เพื่อให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย
8. ออกกำลังกาย เพื่อให้ปอดแข็งแรง และเพื่อขับพิษที่ตกค้างในร่างกายออกทางเหงื่อ
9. ปรึกษาหน่วยงานที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลิกบุหรี่ เช่น 1600 สายเลิกบุหรี่ , มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ http://www.ashthailand.or.th เป็นต้น
สรุป : บุหรี่ถ้าติดแล้วเลิกยาก แต่ถ้าหากท่านมีจิตใจเข้มแข็งขอให้ผ่าน 2 อาทิตย์แรกไปได้ ท่านก็จะสบายแล้วครับ เพราะช่วง 2 อาทิตย์ร่างกายยังไม่ชินก็อาจจะมีอาการค้างเคียงบ้าง แต่หลังจากนั้นท่านจะพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เช่น ผิวพรรณดีขึ้น รู้สึกกระปรีกะเปร่าขึ้น เป็นต้น
เนื้อหาอ้างอิง http://medicarezine.com/2012/03/quit-smoking/
